วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560
ไม่ต้องอด ก็ผอมได้...กินกล้วยสิ
ไม่ต้องอด ก็ผอมได้...กินกล้วยสิ
สูตรไดเอตจากชีวิตจริง
สูตรไดเอตต่าง ๆ มักจะมีที่มาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร หรือแพทย์ แต่จุดเริ่มต้นของ "Banana Breakfast Diet" เกิดจาก "ฮามาจิ" ผู้ชายอ้วน ๆ ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่พยายามทำทุกทางเพื่อความผอม ทั้งออกกำลังกายหนัก ๆ วิ่งวันละหลายชั่วโมง ไปจนอดอาหารดื่มแต่นมถั่วเหลือง แต่กลับไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง แถมยังรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ
แต่หลังจากกินกล้วยตามคำแนะนำของ "สึมิโกะ" เภสัชกรที่ศึกษาด้านโภชนบำบัดและเวชศาสตร์การป้องกัน ภายใน 6 เดือน น้ำหนักของเขาก็หายไปถึง 13 กิโลกรัม ทั้งคู่จึงพัฒนาแนวคิดเป็นสูตรไดเอต แนะนำลงบน MIXI ชุมชนออนไน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นกระแสยอดฮิตที่ทำให้สมาชิกลดน้ำหนักได้กว่า 300 คน จนได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ มียอดขายถล่มทลายเกิน 1 ล้านเล่มในญี่ปุ่น และได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ในชื่อ "ผอม สวย กล้วยช่วยได้"
กล้วยนี้มีดีอะไร
กล้วยเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่เกี่ยวข้องกับการลดความอ้วนก็คือ
วิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ป้องกันตัวบวม และฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า
โพแทสเซียม ช่วยในการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ
เส้นใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูก
เซโรโทนิน ช่วยลดอาการหงุดหงิดและความอยากอาหาร
เอนไซม์ช่วยย่อยอาหารที่จะช่วยทำให้สารอาหารดูดซึมไปใช้ได้ทันที
น้ำตาลที่หลากหลาย ทั้งกลูโคส ฟรักโทส ซูโครส และแป้ง ทำให้อิ่มท้องได้นาน ลดความถี่และปริมาณการบริโภคน้ำตาลในระหว่างวันได้ด้วย
วิธีกินก็สำคัญ
หลักของสูตรไดเอตที่ฮามาจิค้นพบ นอกจากจะอาศัยประโยชน์จากกล้วยช่วยให้ผอมแล้ว การกินให้สัมพันธ์กับระบบการย่อยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สูตรนี้ "ได้ผล" โดยเขาบอกว่าการกินแค่กล้วยซึ่งเป็นผลไม้ย่อยง่ายและน้ำเปล่าในตอนเช้า จะทำให้กระเพาะ ลำไส้ และอวัยวะในระบบย่อยก็จะทำงานได้สะดวกขึ้น
เพราะตามหลักการของเวชศาสตร์การป้องกัน หลังกินไปแค่ 15-20 นาที กล้วยจะเคลื่อนที่ไปสู่ลำไส้ และเริ่มถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่ผัก คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน จะใช้เวลาในการย่อยนานกว่า 3-4 ชั่วโมง ส่วน "น้ำ" ก็จะช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดและของเหลวในร่างกายดีขึ้น เมื่อระบบต่าง ๆ ดีขึ้นคุณก็จะผอมลง แถม "กล้วย" ยังเป็นมื้อเข้าง่าย ๆ เหมาะกับชีวิตเร่งรีบของเราสุด ๆ
ออกกำลังกายเมื่ออยากออก
แน่นอนว่าถ้าอยากผอมคงละเลยการออกกำลังไปไม่ได้ แม้สูตรนี้จะไม่ได้บอกให้คุณอดอาหารจนเป็นอันตรายถ้าไปออกกำลังกาย ฮามาจิ บอกว่า เมื่อคุณน้ำหนักเกินมาก ๆ การฝืนออกกำลังแบบหักโหมอาจทำให้บาดเจ็บได้ และการที่ร่างกายรู้สึกทรมานนั้นมีสาเหตุ หากสิ่งที่ทำนั้นดีต่อสุขภาพ คุณก็จะไม่รู้สึกทรมาน ถ้าคุณไม่พร้อม การแกว่งแขนไปมายังมีผลดีต่อการไดเอ็ตมากกว่าการวิ่งจนหอบเสียอีก เมื่อรู้สึกแข็งแรงขึ้น ค่อยออกกำลังให้หนักขึ้นก็ยังไม่สาย
มาเริ่มกินกล้วยไดเอตกันเถอะ !
คอนเซ็ปต์ของ "Banana Breakfast Diet" ก็คือไม่ต้องอด ไม่ต้องทน ไม่เปลืองเงิน ไม่เปลืองเวลา วิธีเพื่อความผอมก็เลยไม่ยุ่งยาก
ตื่นนอน : ถ้าตื่นเองโดยธรรมชาติไม่ต้องพึ่งเสียงนาฬิกาปลุกจะยิ่งดีต่อระบบขับถ่าย
มื้อเช้า : กินกล้วยอะไรก็ได้ กี่ลูกก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดและดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง
ช่วงเช้า : ถ้ารู้สึกไม่อยู่ท้องให้เว้นช่วยหลังกินกล้วยสัก 15-30 นาที กินข้าวต้มสักชามหรือผลไม้ก็ได้
มื้อกลางวัน : กินอะไรก็ได้ ไม่มีข้อกำหนดตายตัว
หลังเที่ยง : หรือหลังมื้ออาหารกลางวันประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อให้การย่อยดำเนินไปได้ด้วยดี อย่าเพิ่งออกกำลังกาย
15.00 น. : หากอยากกินของว่าง อนุญาตแค่เวลานี้เท่านั้น จะเป็นขนมหรือผลไม้ก็ได้
มื้อเย็น : กินอะไรก็ได้ แต่ควรกินให้เร็วกว่าปกติสักครึ่งชั่วโมง และดึกที่สุดไม่เกินสองทุ่ม
หลังมื้อเย็น : ถ้าต้องอยู่ทำงานจนดึกกินได้แค่ผลไม้สักลูกหนึ่งเท่านั้น
เข้านอน : พยายามฝึกนอนก่อนเที่ยงคืนให้เป็นนิสัย เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่ที่สุด
สูตรไดเอตต่าง ๆ มักจะมีที่มาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร หรือแพทย์ แต่จุดเริ่มต้นของ "Banana Breakfast Diet" เกิดจาก "ฮามาจิ" ผู้ชายอ้วน ๆ ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่พยายามทำทุกทางเพื่อความผอม ทั้งออกกำลังกายหนัก ๆ วิ่งวันละหลายชั่วโมง ไปจนอดอาหารดื่มแต่นมถั่วเหลือง แต่กลับไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง แถมยังรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ
แต่หลังจากกินกล้วยตามคำแนะนำของ "สึมิโกะ" เภสัชกรที่ศึกษาด้านโภชนบำบัดและเวชศาสตร์การป้องกัน ภายใน 6 เดือน น้ำหนักของเขาก็หายไปถึง 13 กิโลกรัม ทั้งคู่จึงพัฒนาแนวคิดเป็นสูตรไดเอต แนะนำลงบน MIXI ชุมชนออนไน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นกระแสยอดฮิตที่ทำให้สมาชิกลดน้ำหนักได้กว่า 300 คน จนได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ มียอดขายถล่มทลายเกิน 1 ล้านเล่มในญี่ปุ่น และได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ในชื่อ "ผอม สวย กล้วยช่วยได้"
กล้วยนี้มีดีอะไร
กล้วยเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่เกี่ยวข้องกับการลดความอ้วนก็คือ
วิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ป้องกันตัวบวม และฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า
โพแทสเซียม ช่วยในการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ
เส้นใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูก
เซโรโทนิน ช่วยลดอาการหงุดหงิดและความอยากอาหาร
เอนไซม์ช่วยย่อยอาหารที่จะช่วยทำให้สารอาหารดูดซึมไปใช้ได้ทันที
น้ำตาลที่หลากหลาย ทั้งกลูโคส ฟรักโทส ซูโครส และแป้ง ทำให้อิ่มท้องได้นาน ลดความถี่และปริมาณการบริโภคน้ำตาลในระหว่างวันได้ด้วย
วิธีกินก็สำคัญ
หลักของสูตรไดเอตที่ฮามาจิค้นพบ นอกจากจะอาศัยประโยชน์จากกล้วยช่วยให้ผอมแล้ว การกินให้สัมพันธ์กับระบบการย่อยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สูตรนี้ "ได้ผล" โดยเขาบอกว่าการกินแค่กล้วยซึ่งเป็นผลไม้ย่อยง่ายและน้ำเปล่าในตอนเช้า จะทำให้กระเพาะ ลำไส้ และอวัยวะในระบบย่อยก็จะทำงานได้สะดวกขึ้น
เพราะตามหลักการของเวชศาสตร์การป้องกัน หลังกินไปแค่ 15-20 นาที กล้วยจะเคลื่อนที่ไปสู่ลำไส้ และเริ่มถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่ผัก คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน จะใช้เวลาในการย่อยนานกว่า 3-4 ชั่วโมง ส่วน "น้ำ" ก็จะช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดและของเหลวในร่างกายดีขึ้น เมื่อระบบต่าง ๆ ดีขึ้นคุณก็จะผอมลง แถม "กล้วย" ยังเป็นมื้อเข้าง่าย ๆ เหมาะกับชีวิตเร่งรีบของเราสุด ๆ
ออกกำลังกายเมื่ออยากออก
แน่นอนว่าถ้าอยากผอมคงละเลยการออกกำลังไปไม่ได้ แม้สูตรนี้จะไม่ได้บอกให้คุณอดอาหารจนเป็นอันตรายถ้าไปออกกำลังกาย ฮามาจิ บอกว่า เมื่อคุณน้ำหนักเกินมาก ๆ การฝืนออกกำลังแบบหักโหมอาจทำให้บาดเจ็บได้ และการที่ร่างกายรู้สึกทรมานนั้นมีสาเหตุ หากสิ่งที่ทำนั้นดีต่อสุขภาพ คุณก็จะไม่รู้สึกทรมาน ถ้าคุณไม่พร้อม การแกว่งแขนไปมายังมีผลดีต่อการไดเอ็ตมากกว่าการวิ่งจนหอบเสียอีก เมื่อรู้สึกแข็งแรงขึ้น ค่อยออกกำลังให้หนักขึ้นก็ยังไม่สาย
มาเริ่มกินกล้วยไดเอตกันเถอะ !
คอนเซ็ปต์ของ "Banana Breakfast Diet" ก็คือไม่ต้องอด ไม่ต้องทน ไม่เปลืองเงิน ไม่เปลืองเวลา วิธีเพื่อความผอมก็เลยไม่ยุ่งยาก
ตื่นนอน : ถ้าตื่นเองโดยธรรมชาติไม่ต้องพึ่งเสียงนาฬิกาปลุกจะยิ่งดีต่อระบบขับถ่าย
มื้อเช้า : กินกล้วยอะไรก็ได้ กี่ลูกก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดและดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง
ช่วงเช้า : ถ้ารู้สึกไม่อยู่ท้องให้เว้นช่วยหลังกินกล้วยสัก 15-30 นาที กินข้าวต้มสักชามหรือผลไม้ก็ได้
มื้อกลางวัน : กินอะไรก็ได้ ไม่มีข้อกำหนดตายตัว
หลังเที่ยง : หรือหลังมื้ออาหารกลางวันประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อให้การย่อยดำเนินไปได้ด้วยดี อย่าเพิ่งออกกำลังกาย
15.00 น. : หากอยากกินของว่าง อนุญาตแค่เวลานี้เท่านั้น จะเป็นขนมหรือผลไม้ก็ได้
มื้อเย็น : กินอะไรก็ได้ แต่ควรกินให้เร็วกว่าปกติสักครึ่งชั่วโมง และดึกที่สุดไม่เกินสองทุ่ม
หลังมื้อเย็น : ถ้าต้องอยู่ทำงานจนดึกกินได้แค่ผลไม้สักลูกหนึ่งเท่านั้น
เข้านอน : พยายามฝึกนอนก่อนเที่ยงคืนให้เป็นนิสัย เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่ที่สุด
http://health.kapook.com/view87723.html
นีโม...ปลาเล็ก หัวใจโต๊...โต
นีโม...ปลาเล็ก หัวใจโต๊...โต
เรื่องย่อ
การใช้ชีวิตอยู่ในแนวโขดหินประการังใต้ทะเลลึกนั้น ช่างเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยอันตรายสำหรับเหล่าปลาการ์ตูนตัวน้อยๆ จึงไม่แปลกที่ มาร์ลิน ปลาการ์ตูนพ่อม่าย จะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเต็มที่ในการปกป้อง นีโม ลูกชายตัวเดียวของเขาให้ได้ แม้ใจเขาจะมีทั้งความกลัวและความกังวลประดังถาโถมเข้ามา และแล้ว เวลาที่นีโมจะต้องออกจากบ้านอันแสนปลอดภัยของเขาก็มาถึง ในวันแรกของการไปโรงเรียน มาร์ลินเป็นห่วงมากจึงไปส่งลูกชายเอง ด้วยนิสัยที่วิตกกังวลเกินเหตุไปกับทุกการเคลื่อนไหวของลูก จนนีโมรู้สึกว่าพ่อเริ่มเว่อร์ไปหน่อย เจ้าหนูจึงท้าทายพ่อด้วยการทำซนว่ายผ่านแนวหินเพื่อเข้าไปสำรวจเรือลำหนึ่ง แต่แล้วเรื่องคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อนักดำน้ำโผล่เข้ามารวบร่างของนีโมหายไปต่อหน้าต่อตามาร์ลิน ซึ่งไม่อาจช่วยอะไรได้ทัน! หัวใจที่หล่นวูบทำให้มาร์ลินว่ายพรวดออกตามหาลูกชายอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อผ่านไปถึงหน้าโรงเรียนปลา เขาก็กระโจนเข้าขอความช่วยเหลือจาก โดรี่ ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า ซึ่งยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่
แต่ปัญหาคือโดรี่ดันมีความจำแสนสั้นและพร้อมจะลืมทุกอย่างในเสี้ยววินาที คู่หูไม่ธรรมดาคู่นี้จึงออกผจญภัยในภารกิจที่ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะสำเร็จได้เลย ในเวลาเดียวกัน ที่ออฟฟิศหมอฟัน ณ อ่าวซิดนี่ย์ ฮาร์เบอร์ นีโมได้พบเพื่อนใหม่แปลกๆ มากมายในตู้ปลา นำทีมโดย กิลล์ หัวหน้าสุดซ่า ซึ่งมาจากมหาสมุทรเช่นกันและยังคงฝันถึงวันที่จะได้กลับไปที่นั่นอีกครั้ง เพื่อนร่วมแทงค์อื่นๆ ประกอบด้วย ปลาดาวชื่อ พีช, ปลาปักเป้าเจ้าอารมณ์นาม โบล๊ท, บั๊บเบิ้ลส์ ปลาขี้ตังบ้าฟองอากาศ, เกอร์เกิ้ล ปลาโรยัลแกรมม่าอนามัยจัด, ชักส์ กุ้งพยาบาลผู้แสนรักความสะอาด และ เด็บ ปลาสลิดหินลายแถบขาวดำ ซึ่งเชื่อเป็นตุเป็นตะว่าเงาสะท้อนในผนังกระจกของตู้ปลานั้นคือ โฟล พี่น้องฝาแฝดของหล่อน การมาถึงของสมาชิกใหม่อย่างนีโม ได้ปลุกกระตุ้นความอยากหนีของกิลล์ให้ลุกโชนขึ้นอีกหนหนึ่ง
กลับไปที่มาร์ลินกับโดรี่ ทั้งคู่เดินทางไปจนกระทั่งเผชิญหน้ากับปัญหาที่คาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นสามฉลามหนุ่ม ผู้ฝึกปรือพัฒนาภาพลักษณ์ตัวเองให้หลุดพ้นจากการเป็นแค่เครื่องจักรล่าสังหารไร้หัวใจ!, ปลาสินสมุทรที่สวยตื่นตาแต่อันตรายสุดขีด และดงแมงกะพรุน นอกจากนั้น สองเกลอยังได้เจอฉลามสีน้ำเงิน ได้ท่องย่าน East Australian Current (EAC) ร่วมกับฝูงเต่าทะเล และหนีการโจมตีของนกนางนวลอย่างเฉียดฉิวระหว่างกำลังผจญภัยอยู่ในแถบอ่าวซิดนี่ย์ฮาร์เบอร์ การเดินทางของพวกเขาเริ่มแปรร่างกลายเป็นตำนานแห่งการเล่าขานในหมู่ปลาและฝูงนก และตำนานว่าด้วยปลาการ์ตูนผู้กล้าหาญที่ท่องทั่วมหาสมุทร เพื่อจะตามลูกชายสุดที่รักนี้ก็ดังกระฉ่อนไปจนถึงหูของนีโมในแทงค์บนอ่าวในที่สุด นีโมทั้งแปลกใจและตื่นเต้นจับใจยากบรรยายเมื่อได้รู้ว่าพ่อกำลังเสี่ยงอันตรายตามหาเขาอยู่ ด้วยแรงกระตุ้นจากกิลล์และความปรารถนาของเขาเองที่จะได้กลับสู่อ้อมอกพ่อ ทำให้นีโมตัดสินใจวางแผนหลบหนีที่สุดเสี่ยง แต่เวลามีเหลือน้อยเต็มทน เพราะ ดาร์ล่า หลานสาวจอมซนของหมอฟัน เจ้าของประวัติเคยเขย่าตู้ปลาจนท้องระเบิด กำลังจะมารับตัวนีโมไปวันรุ่งขึ้น
มาร์ลินกับโดรี่เดินทางมาจนถึงซิดนี่ย์ฮาร์เบอร์และได้รับความช่วยเหลือจาก ไนเจิล นกกระทุงใจดีซึ่งก็เคยได้รับรู้เรื่องราวการเดินทางของปลาการ์ตูนใจกล้าตัวนี้มาแล้ว ด้วยเวลาที่งวดเข้ามาเต็มทนและอุปสรรคอีกมากที่รออยู่ สองพ่อลูกต้องต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อจะได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง
การเปิดตัว
ภาพยนตร์ได้รับการเปิดตัวครั้งแรก ณ วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2003 ส่วนในระบบวีเอชเอสและดีวีดีได้รับการเปิดตัว ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 และเปิดตัวในรูปแบบบลูเรย์ดิสก์ที่บางแห่งในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 หลังจากความสำเร็จในการเปิดตัว เดอะ ไลอ้อน คิง อีกครั้งในรูปแบบ 3 มิติ ดิสนีย์และพิกซาร์ จึงได้ประกาศการเปิดตัว นีโม...ปลาเล็กหัวใจโต๊...โต อีกครั้งในรูปแบบ 3 มิติ ซึ่งมีแผนเปิดตัวในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2012
https://th.wikipedia.org
ต้นไม้ในวรรณคดี
ต้นไม้ในวรรณคดี
- ก.กระถินณรงค์, กาหลง, กรรณิการ์, กะทกรก, กระบาก, กล้วยไม้, เกด, กระลำพัก (สลัดไดป่า), กรวยป่า, กุหลาบเมาะลำเลิง, กระดังงา, กาแฟอราบิกา การะเกด (ลำเจียก ปาหนัน เตย), กฤษณา, กล้วยหมูสัง, โกสน, กระสัง, กุ่มบก, กระเบา, กุหลาบ, กระเช้าสีดา, กะเม็ง, กัลปพฤกษ์, แก้ว, กระวาน, กุหลาบมอญ
- ข.เข็มขาว, ข่อย, ขจร, ไข่เน่า, เข็ม, เข็มอุณากรรณ, ขมิ้นชัน(ขมิ้น), เข็มเชียงใหม่, เข็มเศรษฐี, ขานาง, ขนุน
- ค.แคนา, ครอบฟ้า, คนทา(สีฟันคนทา), คัดเค้า
- ง.งิ้ว, เงาะ
- จ.จำปีสิรินธร, จำปา
- ช.ช้องนาง, ขงโค, ชัยพฤกษ์
- ต.ตะโกนา, ตีนเป็ดทะเล
- ท.ทองหลางดอกขาว, ทุเรียน
- น.นมแมว
- บ.บุหงา, เบญจมาศ, บุนนาค, บุหงาส่าหรี, บานเย็น
- ป.ประดู่ป่า, ปออีเก้ง
- ผ.ไผ่สีทอง
- พ.พะยอม, พุทรา, พุดซ้อน
- ม.มิกกี้เม้า, มะเกลือ, มะเฟือง, โมกมัน, มะฮอกกานี, มะเขือยักษ์, มะกล่ำต้น, มะม่วง, มะพลับ
- ย.ยี่หุบ
- ร.ราชพฤกษ์, รัง, ราตรี, รำเพย
- ล.ลิ้นจี่, เล็บครุฑ
- ส.สัก, โสกเขา, ส้านชะวา, สมอไทย, สาละรังกา, สุพรรณิการ์, โสกสะบัน, ส้มโอ
- ห.หมาก, หว้า, หมากเหลือง, หมากนวล
- อ.เอื้องหมายนา, อบเชย
http://www.wangtakrai.com/
ขนมรังผึ้ง
ส่วนผสมและสัดส่วน
1.แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
2.แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
3.ผงฟู ½ ช้อนชา
4.ยีสต์ ½ ช้อนชา
5.น้ำตาลทราย 10 ช้อนโต๊ะ (ชอบหวานแค่ไหน ก็ลดเพิ่ม ปริมาณเอานะค่ะ)
6.ไข่ไก่ 2 ฟอง
7.น้ำเปล่า 10 - 12 ช้อนโต๊ะ
8.เครื่องต่างๆ ที่จะใส่ เช่น ลูกเกด, ข้าวโพด , เผือก
2.แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
3.ผงฟู ½ ช้อนชา
4.ยีสต์ ½ ช้อนชา
5.น้ำตาลทราย 10 ช้อนโต๊ะ (ชอบหวานแค่ไหน ก็ลดเพิ่ม ปริมาณเอานะค่ะ)
6.ไข่ไก่ 2 ฟอง
7.น้ำเปล่า 10 - 12 ช้อนโต๊ะ
8.เครื่องต่างๆ ที่จะใส่ เช่น ลูกเกด, ข้าวโพด , เผือก
วิธีปรุง
1.ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู ยีสต์ และน้ำตาลทรายใส่ในชาม
2.ค่อยๆ ใส่น้ำลงไป ผสมให้เข้ากัน
3.ตอกไข่ใส่อีกชามแล้วตีให้แตก จากนั้นค่อยเทผสมใส่ในชามของแป้ง
4.พักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
5.เตรียมพิมพ์วาฟเฟิ้ล โดยทาน้ำมันพืชบางๆ จากนั้นค่อยๆตักแป้ง หยอดลงไป ใส่เครื่องตามที่ต้องการ แล้วปิดฝา รอจนสุกจะได้กลิ่นหอมของขนมรังผึ้งค่ะ
2.ค่อยๆ ใส่น้ำลงไป ผสมให้เข้ากัน
3.ตอกไข่ใส่อีกชามแล้วตีให้แตก จากนั้นค่อยเทผสมใส่ในชามของแป้ง
4.พักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
5.เตรียมพิมพ์วาฟเฟิ้ล โดยทาน้ำมันพืชบางๆ จากนั้นค่อยๆตักแป้ง หยอดลงไป ใส่เครื่องตามที่ต้องการ แล้วปิดฝา รอจนสุกจะได้กลิ่นหอมของขนมรังผึ้งค่ะ
https://th.openrice.com
ดอกเบญจมาศ
ดอกเบญจมาศ
ดอกเบญจมาศ
ภาษาอังกฤษเรียกว่า คริสแซนติมั่ม หรือ คริสแซนติมุ่มก็ได้ Chrysanthemum
ดอก เบญจมาศเหมือนดอกเก๊กฮวยค่ะอยู่ในเพียงแต่ดอกเล็กกว่าโดยทั่วไปแ่ต่ไม่มี ใครเรียกชื่อเต็มๆหรอกค่ะเพราะเรียกยาก ภาษาก็มาจากภาษากรีกที่แปลว่า ทอง Chrysosกับคำว่า แอนโธส Anthos
ที่แปลว่า ดอกไม้ ค่ะเรียกกันยากนักเลยเรียกกันอย่างย่นย่อว่ามัมส์ “moms”
ยังมีอีกชื่อค่ะที่ชอบเรียกกันทั่วไปว่า “แทนซี่ ”
ดอกเบญจมาศถือว่าเป็น ดอกไม้มงคลของจีน
มีอยู่ 4 ชนิดคือดอกเบญจมาศ ดอกท้อ ต้นไผ่ และดอกกล้วยไม้
ความหมายของต้นไม้มงคลที่เกิดจาก นักกวี หรือนักปราชญ์จีน
ได้เขียนกวี หรือบทประพันธ์เปรียบเทียบไว้ ซึ่งเมื่อบทกวีได้รับความนิยม
ต้นไม้เหล่านั้นก็กลายเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมใน ความหมายตามบทกวีนั้นๆ ด้วย
“ดอกเบญจมาศ” (ดอกฉุยฮัว) นักกวีชาวจีนชื่อ เผาหยวนหมิง
บทกวีเอกของจีน ได้เขียนกวีบทหนึ่ง โดยเปรียบเทียบดอกเบญจมาศว่าเป็นนักปราชญ์
ผู้มีจริยวรรตงดงาม ซึ่งบทกวีนี้ได้รับความยกย่องว่าเป็นบทกวีที่ไพเราะงดงามมาก
“ต้นหลานฮวา” หรือคนไทยรู้จักกันในนามว่ากล้วยไม้ดิน
กวีเอก เผาหยวนหมิง เขียนกวีไว้อีกบทว่า ต้นหลานฮัวเหมือนกับวิญญูชน
ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความดีที่บริสุทธิ์ ไม่โกงกิน ไม่ทำร้ายใคร
จึงนิยมมอบให้กับคนที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต
ดอกเบญจมาศเป็นไม้ล้มลุกดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ตระกูลดอกเดซี่ค่ะ
ดอกใหญ่ดอกเดียวเด่นมีก้านแข็งแรงบานทนเกือบสิบวัน มีกว่า 100 สายพันธ์
ปลูกครั้งแรกที่จีน ญี่ปุ่น เมื่อ 3,000 กว่าปีมาแล้ว
เป็นดอกที่ชอบแสงแดดจัด ดินที่มีการระบายนํ้าค่อนข้างดี
บางสายพันธ์ุมีกลิ่นแรง จะมีกลิ่นฉุนมากกว่าหอม
ดอกเบญจมมาศเป็นดอกไม้ที่นิยมให้แก่คนอันเป็นที่รัก
ดอกเบญจมามาศมีหลายสีค่ะและมีความ หมายต่างกันเช่น
สีแดงสำหรับความรักและความมีโชคดี ความปรารถนาดี
สีขาวหมายถึง สัจจะ จีนหมายถึงชนชั้นสูง
ดอกเบญจมาศ เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพจีนยุคเก่าก่อนการปฎิวัติ และเป็นดอกไม้ของชนชั้นสูง
ย่อมเป็นของต้องห้ามสำหรับประชาชนธรรมดาๆ ทั่วไปที่จะปลูกดอกไม้ชนิดนี้ไว้เชยชม
สีเหลืองหมายถึงความรักที่ยั่งยืน
ภาพยนต์เรื่องหนึ่งของจีนก็ได้ใช้ดอกเบญมาศเป็นสัญลักษณ์
คือเรื่อง Curse of Golden Flower คำสาบของดอกไม้สีทอง คือดอกเบญจมาศสีเหลืองนี่เอง
บางประเทศในยุโรบจะถือว่าดอกเบญจมาศสีขาว หมายถึงความตายค่ะ
อันที่จริงดอกสีขาวหมายถึงสัจจะ หรือว่าความตายคือความจริงก็ถูกเหมือนกันนะคะ
ปัจจุบันมักจะหมายถึง ความสุขการมองโลกในแง่ดี ความเบิกบานแจ่มใส
ในญี่ปุ่นหมายถึงพระอาทิตย์ นำดอกเบญมาศมาจากจีนเมื่อปีคศ. 1400 ราชวงศ์ญี่ปุ่นชอบมาก
จึงนำเอามาเป็นตราลัญจกรของราชวงศ์สัญลักษณ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่น หมายถึงความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ดอกเบญจมาศมีความหมายมากค่ะ
สำหรับทางเอเซียเช่นจีนและญี่ปุ่นตามที่่ Dogstar ที่ญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของราชบัลลังก์
เป็นตราประทับของราชวงศ์เป็นชื่อเครื่องราช อิสริยาภรณ์ชั้นสูงของราชวงศ์
ที่มอบให้แก่บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ของประเทศ พระจักรพรรดิเป็นผู้มอบให้เท่านั้น
เป็นชื่อของเรือรบ ชื่อ คิกุกามอนโช (Kikugamonsho Battleship) ที่เกาหลี ญี่ปุ่น
https://5a23960.wordpress.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)